ประสบการณ์ การทำจมูกครั้งแรก ภาคสอง ใน 7 วันต่อมา by Romwain
ฮายยยยยยย คัมแบ็คคค นะจ๊ะ ในกระทู้นี้จะเล่าถึงชีวิต 7 วัน หลังจากเสียเลือดเสียเนื้อ... แต่เพิ่มซิลิโคนมา คริ คริ USA Standard มั้ง ถ้าจำไม่ผิด
วันที่ 1
กลับมาถึงบ้านก็ อาบน้ำ พร้อมนั่งนอน บวกกับล็อคคอ ต้องใส่แมสที่ทับด้วยกระดาษทิชชู่ด้านในตลอด เพราะมีเลือดไหลค่อนข้างเยอะ และยาชาก็เริ่มจากไป เริ่มมีอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลางรับรู้ได้ รีบทานยาแก้ปวดที่ได้มาและรีบนอน แต่... แต่... ดันตื่นกลางดึกเพราะปวดหนึ่ง หายใจไม่ค่อยสะดวกสอง เหงื่อดันออกที่คอตรงที่หมอนล็อคไว้ไม่ได้ระบายอากาศ สงสัยไขมันส่วนเหนียงจะเดือด 555 ก็สะดุ้งตื่น เลยตัดสินใจลุกมาทานยาแก้ปวด ล้างแผล เช็คคราบเลือดกรังๆ ออก แล้วก็ประคบเย็น และขึ้นไปนอนต่อ หลับสบายเลยคราวนี้ เช้าตื่นมาก็บวมตรงตาเล็กน้อย น้อยถึงน้อยมากกกกกกกก ตื่นเช้ามาดันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรืออีก แต่ต้องพึ่งโจ๊กคัพ กับ หลอดเซเว่นที่สะสมไว้ ร่วมกับก๋วยเตี๋ยวเรือชามน้อยอีกหนึ่งชาม พร้อมกับอัดยาไปอีกชุดใหญ่ไฟกระพริบ
ปล. กังวลนิดนึงที่หน้าไม่บวม ช่ายยยย อ่านถูกค่ะ กังลวม้ากกกกกก เพราะเค้าบอกวันแรกจะบวมสุด นี่รอจนถึงบ่าย ถึงเย็น ก็ยังไม่บวม แอบลุ้นเพราะวันศุกร์ ที่นับเป็นวันที่ 4 หลังจากทำ ดันมีงานต้องเซ็นต์สัญญางาน เลยอยากให้รีบบวม 5555
วันที่ 2 และ 3
ชีวิตวนลู้บ ปวดก็กินยา เพิ่มเติมคือ อยาากกินยำวุ้นเส้น แต่ว่าๆๆๆ วันที่สองก็ยังไม่บวมอ่ะ รอจนเย็น จนค่ำ จนจะนอน ก็แบบไม่บวมเหมือนกับที่ควรจะบวมมมม เริ่มแบบกลัว อาการ บวม ดีเลย์ แต่ว่าๆๆ พอตื่นกลางดึกคืนที่ 2 ก็สมใจเลยจ้า เป็นคนมองโลกแคบเลยจ้าาา บวมขึ้นจากเดิมมม และมีรอยเขียวใต้ตาเล็กน้อย ดีใจจจจจ เลยอัดใบบัวบกเป็นมื้อละสามเม็ด เพิ่มน้ำมะพร้าว และซื้อยาลดบวมจากร้านขายยา เม็ดแคปซูลเหลืองน้ำตาล (บอกเค้าว่า ยาลดบวมไปทำดั้งมาค่ะ แบบนี้โลยยยย) เพิ่มเติมคือ เรพาริลแบบเม็ดอัดไป 2 เม็ด 3 เวลาเลยจ้าาาา และประคบเย็นแทบจะตลอด + นอนหมอนสูงตลอดดดดด ในส่วนของวันที่ 3 ก็ยังบวมอยู่ค่ะ มีรอยเขียวชัดขึ้น แต่ว่าลดลงมาบ้างแล้วไม่มากเท่าวันที่ 2 การประคบเย็น นอนพัก นอนหมอนสูง อัดยา ต้องห้ามลืมเด็ดขาด ทำวนไป อย่าได้หยุดดดดด และวันที่ 3 ตอนก่อนนอนก็ถอดเฝือกเองเพราะวันรุ่งจะมีงาน ไม่พร้อมเอาเฝือกไปโชวจริงๆ ก็ใช้น้ำอุ่นผสมน้ำเกลือ เอาคัตตอนบัดจุ่มให้ชุ่มและค่อยๆ ลอกออก จากบนลงล่าง ย้ำ บนลงล่าง และล้างแผล นอนตามปกติ
ปล. ครูเบสท์ล้างแผลวันละ 3-4 รอบนะคะ เช้า บ่าย ก่อนนอน กลางดึก(ถ้าตื่น)
วันที่ 4
เริ่มเข้าร่าง อวตาร ที่แท้ทรู บ่องตง เหมือนมากกก 555 มีรอยเขียวช้ำชัดเจน ในวันที่มีงานพอดี เจริญล่ะ อัดเรพาริลหนักมากกกก แต่ว่าข่าวดีคือ ไม่มีเลือดออกที่แผลแล้วอ่ะ ถ้าไม่เคี้ยวอะไรคำใหญ่ๆ นะ คือแผลเกืือบแห้งเลยแหละ ที่สำคัญ มันคันค่า คันตั้งแต่วันที่ 3 นั่นแหละ คันต่อเนื่อง วันที่ 3 คันที่เฝือกรอบเฝือก วันที่ 4 นี่เริ่มคันที่แผลเลย ทรมาน ฝุดๆ เลยหายาแก้แพ้แก้คันมากินแบบไม่ง่วง ช่วยได้เย๊อะๆๆๆๆ และเขียนคิ้ว พร้อมหน้าสดไปงานจ้ะ
วันที่ 5 - 7
วันที่ 5 ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แต่พอวันที่ 6 ตามที่ทางคลีนิคแจ้งมาเค้าให้ประคบอุ่น เลยเปลี่ยนมาประคบอุ่น ดันบวมกว่าเดิมมมม เห้ยยยยย หรืออาจจะสอน เลยต้องพูดเยอะ แต่ไม่ลดบวมลงเลย แต่ความเขียวก็ดีขึ้น เลยเปลี่ยนวิถี กลับมาประคบเย็นดังเดิมมมม
วันที่ 7 พีคมากก บอกเลย ครูเบสท์ไปกินทุเรียนบุฟเฟ่ต์มางับ บอกเลยว่า ยังบวม ยังเขียว เหมือนอยู่ใน อวตาร มาก บอกโลยยยยย แต่ว่า ก็พอดูได้ ไม่บวมเป่งเหมือนช่วงแรก เดินดินแบบไร้แมสได้ โด้นท์แคร์เราจะผ่านจุดนี้ไปได้ ประคบเย็นมาเรื่อยๆ เลยอ่ะ ทานยาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ว่าคันแผลมากขึ้น
แถมๆๆๆ
วันที่ 9-10 แต่งหน้าแล้วนะคร๊า บวมน้อยลงมากก แต่่ตาดำจนโบ๋เลย ไม่รู้เพราะอาการอะไร แต่แต่งหน้าได้แว้วววว แต่ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม วันที่ 10 ลงประคบอุ่น บวมขึ้นเลยกลับไปประคบเย็นดังเดิมนะเจ้าคะ แต่ทานอาหารทะเลจะคัน ไม่มีผลต่อแผลนะ ครูเบสท์ทานแล้วก็ทานยาแก้แพ้แก้คันเอา ก็เหมือนปกติ 555 เรื่องกินเรื่องใหญ่ ง้าบบบบบ
จบแว้วนะจ๊ะ ติชมได้เด้อ ถามเพิ่มเติมก็ได้จ้ะ
Line ID: thebestty1234
เดี๋ยวจะมาอัพหลังตัดไหม หลัง 1 เดือน หลัง 3 เดือนน้าาา ถ้าเก๊าไม่ลืมถ่ายรูป
แต่ว่าๆๆๆๆๆ ต้องแจ้งๆๆๆ ปลายจมูกครูเบสท์เนื้อเยอะ อันนี้หมอแจ้งตั้งแต่แรกแล้วว่า มันอาจจะเล็กไม่ได้มาก โดยเฉพาะข้างซ้าย มันบวม มันเลยเหมือนเอียง ตอนแรกจิตไม่ตก พอดีน้องสาวปากดีของครู มันชอบทัก เลยเริ่มละ แต่ว่า ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเอียงมั้ยต้องรอรัดก่อนเท่านั้นค่ะ ส่วนเรื่องปลายจมูกที่ยังใหญ่ ถ้าอยากจะแก้ที่เนื้อเยอะ ต้องผ่าเปิดแบบเกาหลี และเฉือนเอาเนื้อออก หรือเหลากระดูก หรืออะไรก็ต้องดูอีกที แต่ว่า โผมมมม...ไม่พร้อมจรริงๆ ทั้งใจ ทั้งเงิน รอแท่งนี้สัก 3-5 ปี ก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้เป้าหมายแค่ อยากดั้ง กับ สัน ชัด ปังๆ เท่าน้นเอง ตามที่ใจต้องการ พออออ
สถานีต่อไป........ มีรายการรออีก 2-3 รายการ แต่ว่า ทรัพย์จาง และ ไม่ใจพอ บัยยยยย
วันที่ 1
กลับมาถึงบ้านก็ อาบน้ำ พร้อมนั่งนอน บวกกับล็อคคอ ต้องใส่แมสที่ทับด้วยกระดาษทิชชู่ด้านในตลอด เพราะมีเลือดไหลค่อนข้างเยอะ และยาชาก็เริ่มจากไป เริ่มมีอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลางรับรู้ได้ รีบทานยาแก้ปวดที่ได้มาและรีบนอน แต่... แต่... ดันตื่นกลางดึกเพราะปวดหนึ่ง หายใจไม่ค่อยสะดวกสอง เหงื่อดันออกที่คอตรงที่หมอนล็อคไว้ไม่ได้ระบายอากาศ สงสัยไขมันส่วนเหนียงจะเดือด 555 ก็สะดุ้งตื่น เลยตัดสินใจลุกมาทานยาแก้ปวด ล้างแผล เช็คคราบเลือดกรังๆ ออก แล้วก็ประคบเย็น และขึ้นไปนอนต่อ หลับสบายเลยคราวนี้ เช้าตื่นมาก็บวมตรงตาเล็กน้อย น้อยถึงน้อยมากกกกกกกก ตื่นเช้ามาดันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรืออีก แต่ต้องพึ่งโจ๊กคัพ กับ หลอดเซเว่นที่สะสมไว้ ร่วมกับก๋วยเตี๋ยวเรือชามน้อยอีกหนึ่งชาม พร้อมกับอัดยาไปอีกชุดใหญ่ไฟกระพริบ
ปล. กังวลนิดนึงที่หน้าไม่บวม ช่ายยยย อ่านถูกค่ะ กังลวม้ากกกกกก เพราะเค้าบอกวันแรกจะบวมสุด นี่รอจนถึงบ่าย ถึงเย็น ก็ยังไม่บวม แอบลุ้นเพราะวันศุกร์ ที่นับเป็นวันที่ 4 หลังจากทำ ดันมีงานต้องเซ็นต์สัญญางาน เลยอยากให้รีบบวม 5555
วันที่ 2 และ 3
ชีวิตวนลู้บ ปวดก็กินยา เพิ่มเติมคือ อยาากกินยำวุ้นเส้น แต่ว่าๆๆๆ วันที่สองก็ยังไม่บวมอ่ะ รอจนเย็น จนค่ำ จนจะนอน ก็แบบไม่บวมเหมือนกับที่ควรจะบวมมมม เริ่มแบบกลัว อาการ บวม ดีเลย์ แต่ว่าๆๆ พอตื่นกลางดึกคืนที่ 2 ก็สมใจเลยจ้า เป็นคนมองโลกแคบเลยจ้าาา บวมขึ้นจากเดิมมม และมีรอยเขียวใต้ตาเล็กน้อย ดีใจจจจจ เลยอัดใบบัวบกเป็นมื้อละสามเม็ด เพิ่มน้ำมะพร้าว และซื้อยาลดบวมจากร้านขายยา เม็ดแคปซูลเหลืองน้ำตาล (บอกเค้าว่า ยาลดบวมไปทำดั้งมาค่ะ แบบนี้โลยยยย) เพิ่มเติมคือ เรพาริลแบบเม็ดอัดไป 2 เม็ด 3 เวลาเลยจ้าาาา และประคบเย็นแทบจะตลอด + นอนหมอนสูงตลอดดดดด ในส่วนของวันที่ 3 ก็ยังบวมอยู่ค่ะ มีรอยเขียวชัดขึ้น แต่ว่าลดลงมาบ้างแล้วไม่มากเท่าวันที่ 2 การประคบเย็น นอนพัก นอนหมอนสูง อัดยา ต้องห้ามลืมเด็ดขาด ทำวนไป อย่าได้หยุดดดดด และวันที่ 3 ตอนก่อนนอนก็ถอดเฝือกเองเพราะวันรุ่งจะมีงาน ไม่พร้อมเอาเฝือกไปโชวจริงๆ ก็ใช้น้ำอุ่นผสมน้ำเกลือ เอาคัตตอนบัดจุ่มให้ชุ่มและค่อยๆ ลอกออก จากบนลงล่าง ย้ำ บนลงล่าง และล้างแผล นอนตามปกติ
ปล. ครูเบสท์ล้างแผลวันละ 3-4 รอบนะคะ เช้า บ่าย ก่อนนอน กลางดึก(ถ้าตื่น)
เริ่มเข้าร่าง อวตาร ที่แท้ทรู บ่องตง เหมือนมากกก 555 มีรอยเขียวช้ำชัดเจน ในวันที่มีงานพอดี เจริญล่ะ อัดเรพาริลหนักมากกกก แต่ว่าข่าวดีคือ ไม่มีเลือดออกที่แผลแล้วอ่ะ ถ้าไม่เคี้ยวอะไรคำใหญ่ๆ นะ คือแผลเกืือบแห้งเลยแหละ ที่สำคัญ มันคันค่า คันตั้งแต่วันที่ 3 นั่นแหละ คันต่อเนื่อง วันที่ 3 คันที่เฝือกรอบเฝือก วันที่ 4 นี่เริ่มคันที่แผลเลย ทรมาน ฝุดๆ เลยหายาแก้แพ้แก้คันมากินแบบไม่ง่วง ช่วยได้เย๊อะๆๆๆๆ และเขียนคิ้ว พร้อมหน้าสดไปงานจ้ะ
วันที่ 5 ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แต่พอวันที่ 6 ตามที่ทางคลีนิคแจ้งมาเค้าให้ประคบอุ่น เลยเปลี่ยนมาประคบอุ่น ดันบวมกว่าเดิมมมม เห้ยยยยย หรืออาจจะสอน เลยต้องพูดเยอะ แต่ไม่ลดบวมลงเลย แต่ความเขียวก็ดีขึ้น เลยเปลี่ยนวิถี กลับมาประคบเย็นดังเดิมมมม
วันที่ 7 พีคมากก บอกเลย ครูเบสท์ไปกินทุเรียนบุฟเฟ่ต์มางับ บอกเลยว่า ยังบวม ยังเขียว เหมือนอยู่ใน อวตาร มาก บอกโลยยยยย แต่ว่า ก็พอดูได้ ไม่บวมเป่งเหมือนช่วงแรก เดินดินแบบไร้แมสได้ โด้นท์แคร์เราจะผ่านจุดนี้ไปได้ ประคบเย็นมาเรื่อยๆ เลยอ่ะ ทานยาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ว่าคันแผลมากขึ้น
แถมๆๆๆ
วันที่ 9-10 แต่งหน้าแล้วนะคร๊า บวมน้อยลงมากก แต่่ตาดำจนโบ๋เลย ไม่รู้เพราะอาการอะไร แต่แต่งหน้าได้แว้วววว แต่ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม วันที่ 10 ลงประคบอุ่น บวมขึ้นเลยกลับไปประคบเย็นดังเดิมนะเจ้าคะ แต่ทานอาหารทะเลจะคัน ไม่มีผลต่อแผลนะ ครูเบสท์ทานแล้วก็ทานยาแก้แพ้แก้คันเอา ก็เหมือนปกติ 555 เรื่องกินเรื่องใหญ่ ง้าบบบบบ
จบแว้วนะจ๊ะ ติชมได้เด้อ ถามเพิ่มเติมก็ได้จ้ะ
Line ID: thebestty1234
เดี๋ยวจะมาอัพหลังตัดไหม หลัง 1 เดือน หลัง 3 เดือนน้าาา ถ้าเก๊าไม่ลืมถ่ายรูป
แต่ว่าๆๆๆๆๆ ต้องแจ้งๆๆๆ ปลายจมูกครูเบสท์เนื้อเยอะ อันนี้หมอแจ้งตั้งแต่แรกแล้วว่า มันอาจจะเล็กไม่ได้มาก โดยเฉพาะข้างซ้าย มันบวม มันเลยเหมือนเอียง ตอนแรกจิตไม่ตก พอดีน้องสาวปากดีของครู มันชอบทัก เลยเริ่มละ แต่ว่า ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเอียงมั้ยต้องรอรัดก่อนเท่านั้นค่ะ ส่วนเรื่องปลายจมูกที่ยังใหญ่ ถ้าอยากจะแก้ที่เนื้อเยอะ ต้องผ่าเปิดแบบเกาหลี และเฉือนเอาเนื้อออก หรือเหลากระดูก หรืออะไรก็ต้องดูอีกที แต่ว่า โผมมมม...ไม่พร้อมจรริงๆ ทั้งใจ ทั้งเงิน รอแท่งนี้สัก 3-5 ปี ก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้เป้าหมายแค่ อยากดั้ง กับ สัน ชัด ปังๆ เท่าน้นเอง ตามที่ใจต้องการ พออออ
สถานีต่อไป........ มีรายการรออีก 2-3 รายการ แต่ว่า ทรัพย์จาง และ ไม่ใจพอ บัยยยยย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น